มงคล สิมะโรจน์
ประธานกรรมการ
ในปี 2566 ถือเป็นปีแห่งการพัฒนาการความร่วมมือกับหุ้นส่วนทางธุรกิจ ทั้งในส่วนของธุรกิจน้ำมันซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ และส่วนธุรกิจอื่นๆ (Non-Oil) ที่บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายในการลงทุนเพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีพัฒนาการที่สำคัญใน 2 เรื่อง ที่จะเป็นการวางรากฐานการเติบโตในอนาคตของบริษัทฯและส่งผลให้บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจได้มั่นคง หลากหลาย และยั่งยืนมากขึ้น ดังนี้
เรื่องแรก บริษัทฯ ได้จำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย คือ บริษัท ซัสโก้ ดีลเลอร์ส จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 100 ให้แก่กลุ่มบริษัทไซโนเปค บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ในสัดส่วนร้อยละ 49 และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ไซโนเปค ซัสโก้ จำกัด เพื่อร่วมกันดำเนินธุรกิจค้าปลีกน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมันในประเทศไทย ธุรกิจน้ำมันเครื่องบิน ธุรกิจค้าส่งน้ำมัน และเป็นพันธมิตรในการดำเนินธุรกิจด้านอื่นๆ ในอนาคต เนื่องจากกลุ่มบริษัทไซโนเปค เป็นผู้ค้าน้ำมันอันดับต้นของโลก ที่มีสถานีบริการภายใต้การบริหารมากกว่า 30,000 สถานี มีเครือข่ายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกว้างขวาง และมีสถานะการเงินที่แข็งแรง การร่วมทุนในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจท่ามกลางสภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้นของกลุ่มบริษัทในอนาคต นอกจากนี้ ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน กลุ่มธุรกิจเอสโซ่ในประเทศไทยที่ประกอบไปด้วยโรงกลั่นน้ำมัน และสถานีบริการน้ำมันกว่า 800 แห่ง ได้จำหน่ายกิจการให้แก่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจน้ำมันบางจาก มีสถานีบริการน้ำมันในประเทศไทยเพิ่มขึ้นกว่า 2,200 แห่ง และอนาคตจะไม่มีสถานีบริการภายใต้เครื่องหมายการค้า “เอสโซ่” ในประเทศไทย จึงเห็นได้ว่า อุตสาหกรรมน้ำมันในประเทศยังคงมีการแข่งขันที่สูงและมีการปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้เกิดการควบรวมกิจการดังกล่าวขึ้น ซึ่งบริษัทฯ มีสถานีบริการน้ำมันที่บริหารโดยใช้เครื่องหมายการค้า “เอสโซ่” ทั้งในภาคอีสาน และภาคเหนืออยู่จำนวนหนึ่ง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาเงื่อนไขทางธุรกิจกับกลุ่มน้ำมันบางจาก ภายหลังจากการควบรวมกิจการดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เรื่องที่สอง บริษัทฯ ได้จัดตั้ง บริษัท ซัสโก้ บียอนด์ จำกัด เป็นบริษัทย่อย เพื่อลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ นอกเหนือจากธุรกิจน้ำมัน ทั้งนี้ บริษัทย่อยแห่งนี้ได้เป็นหนึ่งในตัวแทนการจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า ยี่ห้อบีวายดี จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นรถยนต์-ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมและมียอดขายเป็นอันดับหนึ่งของโลก เมื่อเปรียบเทียบยอดขาย ณ ไตรมาส 4 ปี 2566 อีกทั้งรัฐบาลไทยได้มีมาตรการช่วยเหลือด้านภาษีและเงินอุดหนุน เพื่อให้ผู้ประกอบการรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาลงทุนสร้างฐานการผลิตในประเทศไทย และกระตุ้นการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศให้เพิ่มมากขึ้น บริษัทฯ จึงได้เล็งเห็นถึงโอกาสดังกล่าว โดยในช่วงกลางปี 2566 ได้เข้าดำเนินธุรกิจเป็นผู้แทนจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า บีวายดี ณ สิ้นปี 2566 มีศูนย์จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 7 แห่ง ในกรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา และอ่างทอง และภายในปี 2567 มีแผนที่จะขยายจำนวนศูนย์จำหน่ายรถยนต์เพิ่มอีกอย่างน้อย 3 แห่ง ถึงแม้ธุรกิจดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการได้เพียงครึ่งปี 2566 แต่กลุ่มบริษัทสามารถทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าได้กว่า 2,000 คัน เห็นได้ว่าธุรกิจดังกล่าวมีศักยภาพสูง เนื่องจากความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยยอดจดทะเบียนรถไฟฟ้าในประเทศไทยเติบโตจากประมาณ 9,700 คัน ในปี 2565 เป็นประมาณ 78,000 คันในปี 2566 และคาดว่ายอดขายและยอดจดทะเบียนรถจะไม่ต่ำกว่า 120,000 คัน ในปี 2567 ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดหวังว่าธุรกิจนี้จะเติบโตต่อไปได้ด้วยดี เป็นการกระจายและลดความเสี่ยงจากธุรกิจ-ค้าปลีกน้ำมัน ซึ่งความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มที่ลดลงในอนาคต
จากทั้งสองเรื่อง ได้แสดงให้เห็นว่า บริษัทฯ ยังคงวางแผนที่จะบริหารงานในส่วนธุรกิจน้ำมันให้มั่นคง และมีการเพิ่มสัดส่วนธุรกิจ Non-Oil ให้มากขึ้น จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า และพัฒนาการให้เช่าพื้นที่ภายในสถานีบริการ เพื่อสร้างรายได้ให้กลุ่มบริษัทมากยิ่งขึ้น
สำหรับสภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2566 มีการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 1.9 ต่ำกว่าที่คาดการณ์กันไว้ ถือได้ว่าเศรษฐกิจ ยังฟื้นตัวได้ไม่ดีนัก ในปี 2566 มีการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย อยู่ที่ 152.30 ล้านลิตรต่อวัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.4 โดยการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้นร้อยละ 50.9 และน้ำมันกลุ่มดีเซลมีการใช้ลดลงร้อยละ 15.8 ในส่วนธุรกิจน้ำมันของบริษัทฯ ในปี 2566 กลุ่มบริษัทมีปริมาณการขายน้ำมันสำเร็จรูป 1,090 ล้านลิตร ใกล้เคียงกับปี 2565 เนื่องจากบริษัทฯ จำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อยบางส่วนให้แก่กลุ่มไซโนเปคดังกล่าวข้างต้น ทำให้ยอดขายน้ำมันเครื่องบิน และสถานีบริการบางแห่ง ไม่ถูกนับเข้ามาในงบการเงินรวม ตั้งแต่เกิดการจำหน่ายเงินลงทุนในเดือนพฤษภาคม 2566 แต่เมื่อรวมปริมาณการจำหน่ายน้ำมันจากบริษัท ไซโนเปค ซัสโก้ จำกัด ด้วยแล้ว จะทำให้ยอดขายน้ำมันของกลุ่มบริษัท ในปี 2566 มีปริมาณถึง 1,304 ล้านลิตร หรือเติบโตขึ้นประมาณร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ในส่วนของผลประกอบการของกลุ่มบริษัท ในปี 2566 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้รวม 33,706 ล้านบาท ลดลงจาก ปี 2565 ที่มีรายได้ 33,771 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.19 แต่บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,226 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 422 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อยให้แก่กลุ่มไซโนเปค นับได้ว่ากลุ่มบริษัทยังคงสามารถทำกำไรได้ดีในปีที่ ผ่านมา ท่ามกลางปัจจัยลบต่างๆ มากมาย
บริษัทฯ ได้จับมือกับพันธมิตรเพื่อทำจุดชาร์จไฟฟ้าในสถานีบริการน้ำมันมาหลายปีแล้วกว่า 20 สถานี เพื่อรองรับการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า และมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนจุดชาร์จไฟฟ้าให้มากขึ้น บริษัทฯ มีการติดตั้ง Solar Roof บนหลังคาสถานีบริการจำนวน 35 แห่ง และอยู่ระหว่างการติดตั้งเพิ่มเติมอีก 15 แห่ง พร้อมทั้งเพิ่มสัดส่วนรายได้ค่าเช่าจากธุรกิจ Non-Oil เช่น ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ศูนย์บริการรถยนต์ ร้านรับ-ส่งพัสดุ และอื่นๆ ให้มากขึ้น บริษัทฯ ใช้คำขวัญว่า “FUEL YOUR DAY” หรือ “เติมพลังให้วันของคุณ” โดยมองว่าในอนาคต สถานีบริการน้ำมันจะเป็นจุดพักเพื่อเติมพลังงานต่างๆ ทั้งรถยนต์และลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ให้กลับออกไปอย่างมีพลัง บริษัทฯ จะมีการพัฒนาสถานีบริการขนาดใหญ่ขึ้นที่เรียกว่า SUSCO SQUARE จากเดิมที่มี 2 แห่ง เป็น 4 แห่ง เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบันที่เปลี่ยนไป มีการร่วมมือกับพันธมิตร เช่น ร้านอาหาร และเครื่องดื่มแบบ Drive Thru เพื่อเพิ่มสัดส่วนของธุรกิจ Non-Oil ภายในสถานีบริการมากขึ้น โดยเน้นให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าและบริการด้วย ความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
สุดท้ายนี้ ในนามของคณะกรรมการ ข้าพเจ้าใคร่ขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้น ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ทั้งลูกค้า คู่ค้า สถาบันการเงิน และผู้มีอุปการคุณทุกท่านที่ได้เกื้อกูลกิจการของกลุ่มบริษัทด้วยดีเสมอมา ตลอดจนผู้บริหารและพนักงานที่ได้ทุ่มเททำงานให้กลุ่มบริษัทมีความเจริญเติบโตมาโดยตลอด ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับการสนับสนุนจากทุกท่านด้วยดีเช่นนี้ต่อไป เพื่อให้ธุรกิจของ กลุ่มบริษัทยังคงเติบโต มีความมั่นคงและยั่งยืนสืบต่อไป
เติมพลังให้วันของคุณ
สำนักงานใหญ่และคลังน้ำมันราษฎร์บูรณะ