เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2520 ได้มีการจัดตั้งบริษัทฯ เป็นบริษัทจำกัดภายใต้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยใช้ชื่อว่า “บริษัท สยามสหบริการ จำกัด” ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจในการให้บริการ การขนส่งน้ำมันทางน้ำแก่ผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ของประเทศในขณะนั้น เช่น บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด และบริษัท น้ำมันคาลเท็กซ์ (ไทย) จำกัด เป็นต้น
ในปี 2528 ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วของบริษัทฯ จาก 5 ล้านบาท เป็น 75 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2528 บริษัทฯ ได้รับอนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์ให้เป็นผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2521 และตามมาตรา 63 แห่งพระราชบัญญัติการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2543 ที่กำหนดว่า “ผู้ค้าน้ำมัน ซึ่งได้รับใบอนุญาตจากรัฐมนตรีตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2521 เป็นผู้ค้าน้ำมันซึ่งได้รับใบอนุญาตตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัตินี้” จึงมีผลให้บริษัทฯ ในฐานะเป็นผู้ค้าน้ำมัน ตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว สามารถซื้อน้ำมันจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายได้ด้วย
ในปี 2529 บริษัทฯ ได้เริ่มจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมันของบริษัทฯ โดยเริ่มที่ภาคใต้ของประเทศ รวม 32 สถานี และในปีเดียวกันนั้น บริษัทฯ ได้แยกธุรกิจการขนส่งน้ำมันออกจากธุรกิจค้าน้ำมัน โดยได้ขายเรือ ขนส่งน้ำมันจำนวน 6 ลำ และสินทรัพย์ที่เกี่ยวกับเรือให้แก่บริษัท สยามมงคลเดินเรือ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วม จากนั้น ได้ขยายสถานีบริการน้ำมันกระจายไปเกือบทั่วทุกภาค
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2533 บริษัทฯ ได้เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมี ทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 280 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 28 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10.00 บาท
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2536 บริษัทฯ ได้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ใช้ชื่อว่า “บริษัทสยามสหบริการ จำกัด (มหาชน)”
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2553 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2553 ได้มีมติอนุมัติให้เปลี่ยนชื่อจาก “บริษัท สยามสหบริการ จำกัด (มหาชน)” เป็น “บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน)” และเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2553 กรมพัฒนา- ธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้รับรองให้บริษัทฯ ใช้ชื่อ “บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน)”
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2555 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2555 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ซื้อหุ้นทั้งหมด ในบริษัท ปิโตรนาส รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ยูนิเวอร์แซล ทรัพย์สิน จำกัด ซึ่งเป็นผู้ค้าน้ำมันเชื้อเพลิงภายใต้เครื่องหมายการค้า “PETRONAS” บริษัทฯ ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นในวันที่ 3 ธันวาคม 2555 และได้เปลี่ยน ชื่อบริษัทในกลุ่มบริษัท PETRONAS ที่มี 5 บริษัท เป็น 1) บริษัท ซัสโก้ ดีลเลอร์ส จำกัด 2) บริษัท ซัสโก้ รีเทล พร็อพ-เพอร์ตี้ จำกัด 3) บริษัท ซัสโก้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด 4) บริษัท ซัสโก้ ลูบริแคนท์ส จำกัด และ 5) บริษัท ซัสโก้ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และได้เปลี่ยนเครื่องหมายการค้า PETRONAS ทั้งหมด เป็น SUSCO ในสิ้นปี 2557
เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2563 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 8/2563 ได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน เพื่อการบริหารทางการเงิน ภายในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 180,000,000 บาท คิดเป็นจำนวนหุ้นไม่เกิน 55,000,000 หุ้น หรือร้อยละ 5.00 ของหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด เมื่อสิ้นสุดโครงการ บริษัทฯ ได้ซื้อหุ้นคืนทั้งสิ้นจำนวน 50,000,100 หุ้น หรือร้อยละ 4.55 ของหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด
กลุ่มบริษัทได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social, and Governance) โดยในปี 2564 คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติกรอบนโยบายการจัดการด้านความยั่งยืน ซึ่งเป็นปีแรกที่กลุ่มบริษัทได้ว่าจ้างที่ปรึกษาในการจัดเก็บข้อมูลเพื่อจัดทำรายงานคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และปี 2565 ได้ตั้งคณะกรรมการบรรษัทภิบาลและความยั่งยืนเพื่อดูแลประเด็นต่างๆ ในเรื่อง การกำกับดูแลกิจการเพื่อความยั่งยืน
เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2565 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 9/2565 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ทำการลดทุนชำระแล้ว โดยวิธีตัดหุ้นจดทะเบียนที่ซื้อคืนและยังมิได้จำหน่ายจำนวน 50,005,500 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 4.55 ของหุ้นที่ชำระแล้ว
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2565 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 10/2565 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ จัดตั้ง บริษัทย่อย เพื่อประกอบกิจการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYD ชื่อบริษัท ซัสโก้ บียอนด์ จำกัด ทุนจดทะเบียน 100,000,000 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 100
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2566 ได้มีมติอนุมัติการจำหน่ายหุ้นสามัญจำนวน 45,863,430 หุ้น และหุ้นบุริมสิทธิจำนวน 955,488 หุ้นในบริษัท ซัสโก้ ดีลเลอร์ส จำกัด ให้แก่ บริษัท ไซโนเปค (ฮ่องกง) ลิมิเต็ด ทำให้บริษัท ซัสโก้ ดีลเลอร์ส จำกัด เปลี่ยนแปลงสถานะจากบริษัทย่อยเป็นบริษัทร่วมของบริษัทฯ และภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น “บริษัท ไซโนเปค ซัสโก้ จำกัด”
เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 5/2566 ของบริษัท ซัสโก้ บียอนด์ จำกัด ซึ่งเป็น บริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติร่วมลงทุนโครงการสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่และให้เช่ารถจักรยานยนต์ ไฟฟ้า พร้อมศูนย์ซ่อมบำรุง ที่สถานีบริการน้ำมันซัสโก้บนเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี กับบริษัท เอเอ็มอาร์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) โดยได้ดำเนินการจัดตั้งบริษัทร่วม ภายใต้ชื่อ “บริษัท เอเอส มาชาร์จ จำกัด” สัดส่วนการลงทุนร้อยละ 40 ของมูลค่าเงินลงทุน
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2566 ได้มีมติให้บริษัทฯ ซื้อหุ้นสามัญ เพิ่มทุน และหุ้นสามัญของบริษัท สยามมงคลเดินเรือ จำกัด จากผู้ถือหุ้นและบุคคลเกี่ยวโยงกัน ในจำนวนไม่เกิน 4,010,637 หุ้น ซึ่งทำให้บริษัทฯ ถือหุ้นเกินร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียนของบริษัทร่วม ทำให้บริษัท สยามมงคลเดินเรือ จำกัด เปลี่ยนแปลงสถานะจากบริษัทร่วมเป็นบริษัทย่อย
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2566 บริษัทฯ ได้รับการต่ออายุใบรับรองจากแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริตหรือ Thailand's Private Sector Collective Action Coalition Against Corruption
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 บริษัทฯ มีคลังน้ำมันซึ่งเป็นของบริษัทฯ จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ คลังน้ำมันราษฎร์บูรณะ คลังน้ำมันสุราษฏร์ธานี และคลังน้ำมันสงขลา นอกจากนี้ยังมีคลังน้ำมันร่วมกับบริษัทอื่นๆ อีกหลายแห่ง เพื่อเก็บน้ำมันที่กลุ่มบริษัทได้ซื้อจากแหล่งต่างๆ เพื่อจำหน่ายต่อและสำรองไว้ตามกฎหมาย กลุ่มบริษัทมีสถานีบริการ-น้ำมันเชื้อเพลิงกระจายกันอยู่เกือบทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 262 แห่ง ในจำนวนนี้ เป็นส่วนที่บริษัทฯ ดำเนินการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ (NGV) และก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เอง จำนวน 227 แห่ง และให้ผู้ใช้สิทธิ (ดีลเลอร์) เช่าดำเนินการจำนวน 35 แห่ง อีกทั้ง บริษัท ซัสโก้ บียอนด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ มีศูนย์จำหน่ายและบริการรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 7 แห่ง ได้แก่ สาขาประตูน้ำพระอินทร์, สาขาอ่างทอง, สาขาพระราม 2, สาขาพระราม 9, สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต, สาขาปิ่นเกล้า และสาขาวิภาวดี 62
เติมพลังให้วันของคุณ
สำนักงานใหญ่และคลังน้ำมันราษฎร์บูรณะ